มัดรวมมาให้ “6 เกรดอาหารสัตว์” ที่ขายในท้องตลาด

เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยสงสัยกันว่า ทำไมอาหารสัตว์แต่ละยี่ห้อในท้องตลาดถึงมีราคาต่างกันมาก ๆ ทั้งที่หน้าตาก็เหมือน ๆ กัน บางยี่ห้อราคาถูกมากจนน่าตกใจในราคาแค่หลักสิบเท่านั้น ไปจนถึงราคาแพงในหลักพันบาทเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่ทำให้ราคามีความแตกต่างก็คือ ” เกรดอาหารสัตว์ ” นั่นเอง 

วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับ 6 เกรดอาหารสัตว์ ที่พบได้ในท้องตลาดว่า แต่ละเกรดเป็นยังไง แตกต่างกันอย่างไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง เผื่อว่าใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะให้น้อง ๆ ทานอาหารเกรดไหน บทความนี้น่าจะช่วยให้ทุกคน สามารถตัดสินใจเลือกอาหารให้น้อง ๆ ได้ตามความพร้อมของคุณพ่อคุณแม่ และเลือกให้เหมาะสมกับน้อง ๆ กันค่าาาา

อาหารสัตว์ในเกรดนี้ สามารถพบเห็นได้ตามโฆษณาทุกช่องทาง หาซื้อได้ทั่วไปตามซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านเพ็ทช็อป ราคาค่อนข้างถูก ผลิตโดยโรงงานที่มีมาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ วัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากผลพลอยได้จากสัตว์ เช่น เศษเนื้อไก่ เศษเนื้อวัว กระดูก หรือเครื่องใน เป็นต้น รวมถึงธัญพืชต่าง ๆ เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง ข้าวเจ้า และอาจมีการเสริม วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน เอนไซม์ สารถนอมคุณภาพอาหารสัตว์ สารแต่งกลิ่น-รส สารให้สี ฯลฯ ลงไปเพื่อเพิ่มให้อาหารมีคุณภาพที่ดีขึ้น

มีการนำผลพลอยได้จากสัตว์และธัญพืชมาใช้อยู่บ้าง และอาจจะมีการใช้วัตถุดิบที่เหลือจากการผลิต โดยวัตถุดิบที่ใช้ มีคุณภาพสูงกว่าแบบมาตรฐานและราคาสูงกว่า เพราะมีการคำนวณสารอาหาร ให้มีความหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่างประเทศ เช่น AAFCO (Association of American Feed Control Officials) หรือองค์กรที่กำหนดมาตรฐานทางโภชนาการสำหรับสัตว์เลี้ยง ที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการแยกออกมาเป็นสูตร ที่เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงแบบต่าง ๆ เช่น สูตรสำหรับสัตว์เลี้ยงระบบปิด (Indoor) สูตรกำจัดก้อนขน (Hair ball) สูตรสำหรับสัตว์เป็นโรคไต หรือสูตรบำรุงขน สูตรดูแลระบบย่อยอาหาร สูตรสำหรับแมวทำหมัน สูตรสำหรับดูแลสุขภาพทางเดินปัสสาวะ สูตรสำหรับสัตว์เลี้ยงสูงวัย เป็นต้น

วัตถุดิบที่ใช้จะมีคุณภาพดีกว่าเกรด Premium เล็กน้อย ซึ่งจะไม่ใช้วัตถุดิบที่เหลือจากการผลิต ไม่เติมแต่งโดยการเติมโปรตีนเกษตรเพื่อใช้แทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์ที่นิยมนำมาใช้ คือ เนื้อไก่มาเป็นส่วนผสมหลัก นอกจากนี้ มีการใช้แร่ธาตุที่สังเคราะห์แล้วทำให้ดูดซึมง่ายและเพิ่มกรดไขมันที่ดี เพื่อช่วยให้สุขภาพสัตว์เลี้ยงของเราแข็งแรงจึงลดโอกาสในการเจ็บป่วย ราคาไม่ถูกและไม่แพงจนเกินไป แต่จะสูงกว่าแบบ Premium อยู่ประมาณ 20 – 30%

เป็นเกรดที่เริ่มใช้วัตถุดิบคุณภาพเดียวกันกับอาหารคน คือ เป็นอาหารธรรมชาติ ไร้สารเคมี 100% มีการวิเคราะห์สารอาหารที่จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างละเอียด มีความลงตัวในด้านสารอาหาร ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตและเสริมให้สุขภาพแข็งแรง เนื่องจากมีส่วนผสมของอาหาร เช่น โปรตีนจากเนื้อไก่ แกะ ปลาเเซลมอน และเนื้อเป็ด ฯลฯ ซึ่งวัตถุดิบที่เป็นจุดเด่น คือ มีการใช้โปรตีนจากเนื้อสัตว์เน้น ๆ เป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายและมีไขมันต่ำ ไม่ใส่วัตถุกันเสียที่ทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการแพ้ ซึ่งมีผลข้างเคียงทำให้ขนร่วงหรือท้องเสีย ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าแบบ Premium และ Super Premium เนื่องจากเป็นอาหารปลอดสารเคมี มีกรดอะมิโน ไขมันดี วิตามิน น้ำมันตับปลา แร่ธาตุ โพรไบโอติกส์ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ถูกคัดสรรมาอย่างดีเพื่อให้ตรงกับ ความต้องการของสัตว์เลี้ยงมากที่สุด รวมไปถึงอาหารเสริมช่วยบำรุงส่วนต่าง ๆ เช่น กระดูกหรือผิวหนัง ในบางสูตรอาจจะใส่ผักและผลไม้ด้วย อาหารเกรด Holistic จึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูง แต่ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มกับคุณภาพและผลลัพธ์อย่างแน่นอน เพราะ เป็นการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงในองค์รวม และส่งผลดีต่อสุขภาพระยะยาวของสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

จะมีความใกล้เคียงกับเกรด Holistic แต่ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีกว่า มีสัดส่วนโปรตีนจากเนื้อสัตว์สูง ไม่ใช้ผลพลอยได้จากสัตว์และธัญพืชเป็นส่วนผสม มีวัตถุดิบส่วนที่คัดมาแล้วว่า มีคุณค่ามากที่สุด เช่น หากใช้เนื้อแกะ ก็จะคัดเลือกเอาส่วนที่มีประโยชน์สูงสุดมาใช้

พัฒนาต่อยอดมาจาก Holistic ไม่มีส่วนผสมของธัญพืช 100% ส่วนใหญ่อาหารเกรดนี้ จะใช้ถั่วและมันฝรั่งเป็นหลัก เพื่อป้องกันปัญหาด้านการย่อย แพ้อาหาร หรือปัญหาอื่น ๆ เน้นส่วนผสมที่มีโปรตีนและไขมันเยอะ เสริมด้วยผักผลไม้เพื่อเป็นกากใยช่วยให้ระบบขับถ่าย แทนใยอาหารจากธัญพืช อาหารเกรดนี้จึงเป็นอาหารที่มีคุณภาพสูง ทำให้มีราคาสูงที่สุดในบรรดาอาหารสัตว์ทุกเกรดในท้องตลาด

ตอนนี้ทุกคนก็ได้รู้จัก เกรดอาหารสัตว์ ทั้ง 6 เกรดในท้องตลาดแล้ว จะเห็นว่า อาหารสัตว์ที่มีราคาแพงกว่าก็มาจากวัตถุดิบที่ดีกว่า ผ่านการคำนวณมาอย่างพิถีพิถัน ทำให้ส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่า 

การเลือกอาหารให้สัตว์เลี้ยงอาจจะดูเป็นเรื่องง่าย ๆ เพราะคนส่วนมากจะเลือกซื้อสินค้าตามโฆษณาที่เห็นบ่อยๆ และรู้สึกชื่นชอบจากอินฟลูเอนเซอร์ในช่องทาง social media ต่าง ๆ หรือตัดสินใจซื้อตามดาราเซเลปที่ใช้ยี่ห้อนั้น ๆ กับสัตว์เลี้ยงของตนเอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกอาหารสัตว์เลี้ยงไม่ควรมาจากความต้องการของตัวเจ้าของเอง แต่ควรมาจากการเลือกอาหารดีที่สุด นั่นก็คืออาหารที่มีประโยชน์ ช่วยให้ร่างกายสัตว์เลี้ยงของเราแข็งแรง ไม่เพียงแต่ร่างกาย แต่รวมถึงจิตใจด้วย เพื่อที่จะทำให้เขาอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน

เราหวังว่าทาสหมาและทาสแมวจะเลือกอาหารที่เหมาะกับน้อง ๆ เพื่อสุขภาพและความสุขของเหล่าสัตว์เลี้ยง เลือกจ่ายค่าอาหารในราคาแพง ดีกว่าต้องจ่ายเงินกับค่ารักษาและค่ายานะคะ

เร่เข้ามา ๆ วันนี้เราขอแนะนำไอเท็มเก๋ ๆ สุดคูลให้เจ้านาย นั่นก็คือ Smart Tag One ป้ายชื่อน้องหมาแมวอัจฉริยะสุดคูล ตัวป้ายชื่อจะบอกชื่อน้องหมา น้องแมว แถมมีเบอร์โทรด้วย แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มีสิ่งที่ว้าวซ่ามากกว่านั้น สิ่งนี้มันล้ำมาก คือ คือ คือ ด้านหลังจะมีตัวคิวอาร์โค้ดให้สแกน โดยตัวคิวอาร์โค้ดตัวนี้สามารถบอก พิกัดบ้านน้องผ่าน Google Map สแกนปุ๊บ รู้พิกัดปั๊บ อุ้มน้องไปคืนถึงหน้าบ้านได้เลย และยังบอกโปรไฟล์น้อง สายพันธุ์ บอกรายละเอียดของเจ้าของว่า เจ้าของคือใคร ชื่ออะไร จะติดต่อได้ช่องทางไหนบ้าง ไม่ว่าจะไลน์ เฟสบุ๊ค เบอร์โทร แอดมินยังใช้เลย และแมวที่นี่ใช้กันทุกตัวเลยด้วย มีนามบัตรประจำตัวน้องให้เลือกมากกว่า 50 แบบ แถมตัวป้ายชื่อ มีแบบให้สลักลงไปมากกว่า 100 แบบ รักน้องไปซื้อให้น้องกันเร็วววว นาทีนี้ ไม่มีไม่ได้แล้วมั้ยยยย มาเพิ่มความคูลให้เจ้านายกันเถอะทาส

ช่องทางการสั่งซื้อ Smart Tag One

– Facebook : https://www.facebook.com/hobbyqr

– Line@ : @hobbyqr >> คลิกเลย : https://lin.ee/Fq6Jwrs

– Instagram : https://www.instagram.com/hobbyqr_official/

– Website : https://salepage.hobbyqr.com/