How to การฝึกสัตว์เลี้ยง ให้ไม่ตื่นกลัวกับเสียงดัง ๆ
ในขณะที่เรากำลังสังสรรค์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือ ลอยกระทง เราอาจจะคิดว่าพลุ หรือ ประทัดเป็นสิ่งที่สวยงามเวลาได้ดู แต่ยังมีเจ้าสัตว์ตัวน้อยที่กลัวเสียงของมัน จนทำให้เกิดการวิ่งหนีเตลิดหายออกไปจากบ้าน พลัดหลงกับเจ้าของ พอถึงช่วงเทศกาลทีไรก็มักจะเห็นคนประกาศตามหาเจ้าสัตว์เลี้ยงกันตามสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ถึงขั้นมีการรณรงค์ให้งดจุดพลุและประทัดในช่วงเทศกาล แต่ถึงจะรณรงค์อย่างไรพอถึงช่วงเวลานั้นก็มีให้เห็นได้อยู่ดีค่ะ วันนี้แอดมินจึงมีวิธี การฝึกสัตว์เลี้ยง ให้ไม่ตื่นกลัวและอยู่ร่วมกับเสียงเหล่านี้ได้ค่ะเหล่าทาส
สาเหตุที่น้องตื่นกลัวเพราะด้วยอาจจะเป็นที่พฤติกรรมของน้องเป็นพวกขี้หวาดระแวง ขี้กลัวเสียงที่แปลกจากที่เคยได้ยิน โดยปกติการได้ยินเสียงของน้องหมาจะอยู่ที่ 67 Hz – 45 kHz น้องแมวจะอยู่ที่ 55 Hz – 79 kHz ซึ่งพิสัยการได้ยินจะกว้างกว่าหูของเหล่าทาสมากกว่าเยอะเลยค่ะ ด้วยความไวต่อเสียงที่มีผลต่อหูน้อง ๆ จึงทำให้เกิดการกระตุ้นในระบบประสาททำให้น้องเกิดความกลัว ระแวง ความเครียด เสียงที่เรารู้สึกว่ามันก็แค่ดัง แต่สำหรับเหล่าสัตว์เลี้ยงมันดังกว่ามากค่ะ หรือเปรียบเทียบง่าย ๆ เสียงพลุที่เราได้ยิน คือเสียงระเบิดที่น้องหมา น้องแมวได้ยินนั่นเอง แล้วจะมีวิธีฝึกน้องอย่างไร ? ไปอ่านวิธีกันได้เลยค่ะ
วิธีฝึกเจ้าสัตว์เลี้ยงไม่ให้ตื่นกลัวกับเสียงดัง ๆ
- อย่างแรกเลยก่อนที่เราจะไปฝึกน้องเราต้องทำตัวเองให้แข็งแกร่งก่อนค่ะ เพราะถ้าเรายิ่งแสดงอาการว่ากลัวเสียงเหล่านั้น ก็ยิ่งทำให้น้องรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเวลาได้ยินเสียงเหล่านี้ หรือกลัวตามเจ้าของ เพราะฉะนั้นจะฝึกน้องได้ เราต้องไม่กลัวค่ะ ข้อห้ามสำคัญ ที่ห้ามทำเมื่อเกิดมีเสียงพลุ ประทัด หรือฟ้าร้องฟ้าผ่าคือ ห้ามโอ๋น้อง ใช้เสียงสี่เสียงห้าเสียงแปด ประคบประหงมจนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้น้องรู้สึกกลัวมากกว่าเดิม เราต้องสตรองเข้าไว้ บอกน้องว่าเสียงมันปรกตินะ ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหนเลย ทำตัวนิ่ง ๆ เข้าไว้ค่ะ
- วิธีที่ 2 เปิดเสียงเหล่านั้นให้น้องได้ฟังทุกวันไล่ระดับจากเบาไปดังมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมจับน้องนอนตะแคงข้างเพราะเป็นท่าที่น้องหมาและน้องแมวรู้สึกปลอดภัย สบายกายสบายใจมากที่สุด ทำให้น้องคุ้นชินกับเสียงที่ได้ยิน ให้รางวัลเป็นขนมในบางครั้ง ให้น้องรู้สึกว่าเมื่อได้ยินเสียงเหล่านี้แล้วก็ไม่ต้องไปวิตกกังวลค่ะ
- วิธีที่ 3 เมื่อมีเสียงเหล่านั้นเกิดขึ้น พยายามอย่าให้น้องวิ่งไปมุดหาที่ซ่อนตัวตามใต้โต๊ะ ใต้เตียง ซอก มุมต่าง ๆ หรือจะใช้สายจูงในการรั้งตัวน้องเอาไว้ ให้น้องเผชิญกับเสียง โดยมีเหล่าทาสคอยนั่งดูอยู่นิ่ง ๆ หรือจะเข้าไปตบที่หลังของน้องเบา ๆ เพื่อเป็นการสัมผัสให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นค่ะ แต่ห้ามโอบกอดน้องเด็ดขาดนะคะ ดูเป็นวิธีที่ต้องใช้พลังของทาสเยอะมาก ๆ ในการรั้งตัวน้องเอาไว้ น้องอาจจะร้อง อาจจะเห่า แต่เราต้องคุมใจของเราให้ได้ค่ะ เพราะว่านี่คือการฝึกให้น้องอยู่ร่วมกับเสียงเหล่านี้ได้นั่นเอง เหล่าทาสอาจจะให้รางวัลน้องเพื่อเป็นการเสริมขวัญได้ค่ะ
- วิธีที่ 4 หากเหล่าทาสลองทุกวิธีที่แอดมินได้บอกไปแล้วนั้นกลับไม่ได้ผล ให้ลองไปปรึกษาสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในนิสัย พฤติกรรม หรือนักจิตวิทยาสัตว์เลี้ยงดูนะคะ เพราะบางทีอาจจะเกิดจากความผิดปรกติภายในอย่างระบบประสาทการรับรู้ของน้อง อาการฝั่งใจที่เป็นมาตั้งแต่เล็ก ๆ อาการเครียด แอดมินรับรองเลยค่ะว่าต้องได้รับคำปรึกษา หรือวิธีรักษาน้องให้หายได้อย่างแน่นอน
วิธี การฝึกสัตว์เลี้ยง แอดมินมาแนะนำในวันนี้ เหล่าทาสทั้งหลายต้องตั้งใจฝึกน้องนะคะ เพราะต้องใช้ทั้งทั้งเวลา ความเข้าใจของทาส พฤติกรรมที่ต้องปรับเปลี่ยนของน้อง หมั่นฝึกฝนบ่อย ๆ ให้น้องเกิดความคุ้นชินกับเสียงพลุ ประทัด หรือเสียงฟ้าร้อง เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นจริงน้องจะได้ไม่กลัว ไม่กังวล และวิ่งหนีเตลิดหายออกไปจากบ้านน้า สู้ ๆ ค่ะเหล่าทาส แอดมินก็ต้องฝึกน้องหมาของแอดมินเหมือนกัน เพราะน้องมีนิสัยที่กลัวเสียงเหล่านี้มาก ๆ เรามาฝึกไปพร้อมกันนะคะ
เมื่อเรารู้วิธีฝึกน้องไปแล้ว แต่ในขณะที่กำลังฝึกน้องอยู่นั้นเกิดมีเสียงเหล่านี้เกิดขึ้นจะมีวิธีป้องกันอย่างไรได้บ้างให้น้องไม่เตลิดวิ่งหนีหายออกไปจากบ้าน
- อย่างแรกเลยนะคะเหล่าทาส ถ้ากำลังอยู่ในช่วงฝึกน้อง แล้วใกล้กับช่วงเทศกาลพอดี สิ่งสำคัญคือเหล่าทาสต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมค่ะ ล็อกประตูบ้าน รั้ว ตรวจสอบน้องให้ดีว่าอยู่ในบ้านแน่ ๆ แล้วใช่ไหม นั่งอยู่เป็นเพื่อนน้องเมื่อเกิดเสียงดังขึ้นค่ะ อย่างที่แอดมินบอกห้ามโอ๋นะคะ ให้น้องได้เผชิญกับเสียงจริง คอยสัมผัสให้เขารู้สึกผ่อนคลายที่ไม่ใช่การโอบกอดค่ะ
- เตรียมสถานที่ในบ้านให้พร้อมค่ะ ในช่วงของการฝึกแรก ๆ น้องอาจจะวิ่งไปหาที่ซ่อน หลบตัวอยู่ตามมุม ตามซอก หาห้องที่เป็นห้องเก็บเสียงที่สุดในบ้านเพื่อป้องกันเสียงจากภายนอก หรือจะเปิดเพลงเพื่อกลบเสียงเหล่านั้นก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ
- แต่ในกรณีที่น้องหลุดหายออกไปแล้วจริง ๆ สิ่งที่จะช่วยและป้องกันน้องได้ดีคือหาป้ายห้อยคอที่มีเบอร์ทาส หรือสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดได้ เพื่อให้คนที่พบเห็นสามารถช่วยเหลือน้องกลับมาสู่อ้อมอกของเราอย่างปลอดภัยค่ะ
วันนี้เต็มอิ่มไปกับวิธีการฝึกเหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงแสนซนของเรา และวิธีป้องกันต่าง ๆ แอดมินจึงอยากจะมานำเสนอป้ายชื่อจาก HobbyQR ป้ายชื่อสุดทันสมัยกับ Smart Tag One ป้ายชื่อที่เป็นมากกว่าป้ายชื่อธรรมดา เพราะว่านอกจากจะสลักชื่อน้องและเบอร์ทาสลงไปแล้ว ด้านหลังเขายังมีคิวอาร์โค้ดให้สแกนได้ด้วยนะคะ
มาพร้อมกับ 10 ฟีเจอร์ให้เหล่าทาสได้ใส่ข้อมูลของน้องลงไปไม่ว่าจะเป็นชื่อน้อง , สายพันธุ์ , การฉีดวัคซีน , อาหารที่น้องแพ้ , ที่อยู่ของน้องที่สามารถดูได้ผ่าน Google Map ค่ะ , ช่องทางการติดต่อเจ้าของในทุกช่องทาง ตัวคิวอาร์โค้ดถูกสลักลงไปไม่ซ้ำกับป้ายชื่ออื่นอย่างแน่นอน ใครที่พบเจอน้องจะไม่สามารถเปลี่ยนข้อมูลที่อยู่ในตัวแอพได้นะคะเหล่าทาสหายห่วงได้เลย ป้ายชื่อทำมาจากสแตนเลสเกรดพรีเมี่ยม มีน้ำหนักเบา ไม่ลอก ไม่ดำ ไม่เป็นสนิมใช้ได้นานค่ะ แถมราคายังสบายกระเป๋าทาสอีกด้วยน้า รูปแบบและนามบัตรของน้องมีให้เหล่าทาสได้เลือกมากกว่า 100 แบบ!! รูปแบบฟ้อนท์ที่ใช้ในการสลักพร้อมลายก็มีให้เลือกมากกว่า 150 แบบ!! แถมยังสลักให้ฟรีอีกด้วย เหล่าทาสห้ามพลาดเด็ดขาด มีป้ายชื่อแล้วก็ต้องมีปลอกคอใช่ไหมเหล่าทาส ทางเราก็มีปลอกคอให้เลือกกันได้ตามใจชอบ หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ปลอกคอโบว์ , หูกระต่าย , ปลอกคอผ้าเช็ดหน้า , ปลอกคอแฟชั่น , มีแบบเรืองแสงด้วยนะ หรือจะเป็นปลอกคอนิรภัยเราก็มี ลายของปลอกคอก็มีให้เลือกเยอะเช่นกันทั้งลายกระดูก , ลายพราง , ลายสก็อต , ลายน้องหมาน้องแมว มีให้เลือกเยอะขนาดนี้หากเหล่าทาสสนใจ สามารถสั่งซื้อ หรือ สอบถามได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยน้า
ช่องทางการสั่งซื้อ ปลอกคอให้เหล่าน้องหมาและน้องแมว และป้ายชื่อ Smart Tag One
– Facebook : https://www.facebook.com/hobbyqr
– Line@ : @hobbyqr >> คลิกเลย : https://lin.ee/Fq6Jwrs
– Instagram : https://www.instagram.com/hobbyqr_official/
– Website : https://salepage.hobbyqr.com/