สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ ป้ายชื่อหมาแมว ในยุค 2022

การใส่ ป้ายชื่อหมาแมว ถือเป็นวิธีพื้นฐานที่ผู้เป็นเจ้าของทุกคนควรปฏิบัติกับน้อง ๆ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อน้องของเรา เพราะจริง ๆ แล้วชื่อน้องเค้าก็บอกอยู่แล้วนะครับว่า “สัตว์เลี้ยง” ใช่แล้วน้องเป็นสัตว์เลี้ยงนะครับ ไม่ใช่สัตว์ป่า ดังนั้นคำว่า “เลี้ยง” ย่อมหมายถึงการมีผู้ดูแล เลี้ยงดู ใช่เลยเค้ากำลังหมายถึงเรานั่นแหล่ะครับ เราผู้เป็นเจ้าของ ผู้ซึ่งควรแสดงทั้งความรักและความรับผิดชอบต่อน้อง ๆ อย่าใช้คำพูดสวยหรูมาปิดบังความรับผิดชอบที่เราควรจะมีกับเค้า ไม่ว่าจะเป็น “กลัวน้องจะอึดอัด” “น้องไม่ชิน/น้องไม่ชอบในการใส่” “เลี้ยงน้องระบบปิดไม่ต้องใส่หรอก” คนที่พูดประโยคเหล่านี้ผมมั่นใจได้เลยว่า เพราะเค้ายังไม่เคยอยู่ในสภาวะน้องหายไปครับ ผมบอกได้เลยว่าใจจะขาดครับ เพราะน้องน่ะพูดไม่ได้นะครับ เค้าบอกใครไม่ได้ว่าเค้าชื่ออะไร เจ้าของคือใคร ดังนั้นวิธีง่ายที่สุดคือการมีปลอกคอหรือป้ายชื่อที่แสดงชื่อน้อง และช่องทางติดต่อเจ้าของนะครับ

พูดกันมาขนาดนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนคงเริ่มอยากมองหาป้ายชื่อให้น้อง ๆ กันแล้วใช่มั้ยครับ ก่อนจะลองไปเลือกซื้อเราลองมาดูสิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อป้ายชื่อน้องหมาแมวกันซักหน่อยนะครับ อย่ามองแต่ความสวยงามเพียงอย่างเดียวนะครับ ให้มองถึงประโยชน์ในการใช้งานด้วยนะครับ วันนี้แอดมินจะมาสรุปให้อ่านกันแบบง่าย ๆ จะได้เดินอมยิ้มเข้าไปซื้อป้ายน้องกันได้อย่างสบายใจเลยครับ

1.ข้อมูลที่ควรมีอยู่บนป้ายชื่อน้อง

ส่วนนี้สำคัญที่สุดเลยครับ เพราะเราไม่ได้จะมี ป้ายชื่อหมาแมว ไว้เพื่อความสวยงามถูกมั้ยครับ เรามีเพื่อที่เวลาใครเจอน้องจะได้ทำความรู้จักน้องได้ง่ายขึ้น และสามารถนำน้องมาคืนเจ้าของได้ หากน้องพลัดหลงกับเจ้าของ ดังนั้นข้อมูลที่สำคัญ ๆ อย่างน้อยที่ต้องมีนะครับ

  • ชื่อของน้องหมา/แมว อย่างน้อยใครเจอน้องเราจะได้เรียกชื่อถูก น้องเราก็จะรู้สึกคุ้นเคย และให้ความเป็นมิตรกับคนที่เจอน้อง ทำให้ง่ายต่อการช่วยเหลือน้อง
  • ช่องทางการติดต่อเจ้าของ จะเป็นเบอร์โทรศัพท์ line E-Mail QR Code อะไรก็ได้ครับที่จะทำให้ผู้เจอสามารถติดต่อมายังเราได้เร็วที่สุด

ในปัจจุบันนอกจากข้อมูลระบุชื่อ และช่องทางติดต่อ ปัจจุบัน ป้ายชื่อถูกพัฒนาให้สามารถระบุข้อมูลได้อีกมากมายผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ หรือผ่าน QR Code ที่สลักอยู่บนป้ายชื่อ ข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลน้ำหนัก วัคซีนที่น้องฉีด อาหาร ยา ตลอดจนโรคประจำตัว กรุ๊ปเลือด สามารถบรรจุลงไปได้ไม่อั้นกันเลยทีเดียว นอกจากนี้บางป้ายชื่อบางแบบก็สามารถส่งข้อความแจ้งเตือนมาให้กับผู้เป็นเจ้าของได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแจ้งเตือนการฉีดวัคซีน การพบหมอ วันเกิด และอื่น ๆ ดังนั้นผู้เลี้ยงน้องยุคใหม่อย่างเราควรเลือกให้ดีนะครับ อย่ามองแค่สวยและถูกนะครับ

2.วัสดุที่ใช้ทำป้ายชื่อน้อง

อย่างที่แอดมินเคยแจ้งไปตั้งแต่แรกและเน้นย้ำมาก่อนหน้านี้ว่าอย่ามองแค่ความสวยงามเป็นสำคัญนะครับ เพราะเรื่องความสวยงามนี่แหละครับทำให้การเลือกใช้วัสดุในการทำป้ายชื่อน้องหมา/แมวมีความหลากหลายมาก ๆ มีตั้งแต่ พลาสติก เรซิ่น ไม้ หนัง สแตนเลสและอื่น ๆ ขอให้เรามองแบบนี้นะครับ น้อง ๆ เค้าซนมากนะครับหากใครเคยดูสารคดีที่เค้าติดกล้องไว้ที่น้องหมาและแมวนี่ เราจะนึกไม่ถึงเลยครับว่าน้องซนได้ขนาดนั้นเลยครับ ดังนั้นให้นึกไปเลยว่าวัสดุที่เลือกใช้จะทนการใช้งานน้องได้ขนาดนั้นมั้ยนะครับ มันจะหลุด จะขึ้นสนิม ข้อมูลบนป้ายจะหายไปมั้ย ถ้าไม่คิดถึงสิ่งเหล่านี้ระวังน้องจะหายไปทั้ง ๆ ที่เราอุตส่าซื้อป้ายให้เค้าแล้วนะครับ

วัสดุที่ผมอยากจะแนะนำคือแสตนเลสครับ เพราะมันจะไม่พัง ไม่ขึ้นสนิม และที่สำคัญหากมีการสลักข้อมูลด้วยเลเซอร์ ก็จะทำให้ยากที่ข้อมูลจะลบเลือนหายไปครับ แต่นั่นแหละครับ สแตนเลสในท้องตลาดมีมากมายหลายเกรด เอาเป็นว่าเลือกชนิดที่หนาและเบาครับ เพราะถ้าบางไปป้ายจะผิดรูปจากการขบกัดของน้อง ๆ นะครับ ผมแนะนำซัก 2 มิลขึ้นไปก็จะดีครับ แต่อย่าลืมนะครับว่าต้องเบาด้วยนะ น้ำหนักที่แนะนำก็ประมาณ 5-20 กรัม ขึ้นกับขนาดและน้ำหนักตัวของน้องด้วยนะครับ

หากเราเลือกโดยไม่สนใจขนาดและน้ำหนัก สิ่งที่ตามมาคือมันจะทำให้น้องใช้ชีวิตได้ลำบาก แล้วเราเองนั่นแหละครับที่จะทนสงสารน้องเค้าไม่ไหวแล้วเราก็จะแกะมันทิ้งครับ สวยนะแต่ไม่ได้ใช้

3.ขนาดและรูปทรงของป้ายชื่อน้อง

ขนาดของป้ายชื่อมีส่วนสำคัญมาก ๆ เพราะถ้าขนาดเล็กไปจะทำให้เราใส่ข้อมูลที่จำเป็นไม่ได้หรือไม่เพียงพอครับ ดังนั้นหากต้องการใส่ข้อมูลเพิ่มเติมให้กับน้อง เพราะเราไม่ได้แค่อยากจะมีป้ายชื่อน้องไว้กันน้องหายอย่างเดียว แต่เราอยากมีป้ายชื่อน้องที่แสดงถึงความเอาใจใส่ของผู้เลี้ยง แอดมินแนะนำป้ายชื่อที่ผูกกับ QRCode ซึ่งผมขอเรียกว่า ป้ายชื่อประเภทที่มี Smart QRCode ละกันครับ เพราะป้ายชื่อแบบนี้คุณจะใส่ข้อมูลอะไรก็ใส่เข้าไปเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น รูปน้อง ประวัติน้อง รูปเจ้าของ ประวัติเจ้าของ ช่องทางการติดต่อจะเอากี่ช่องทางก็ใส่ไปเลยครับ ใส่แผนที่น้องก็ยังได้ ใส่รายละเอียดด้านสุขภาพไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก วัคซีน โรค หรือแม้กระทั่งสถานพยาบาล คุณหมอที่รักษา โดยจะใส่อะไรก็ได้ ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่ทางเจ้าของป้ายเค้าทำมา แอดมินแนะนำว่าหากไม่ได้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีก็ลองหาแบบที่สแกนแล้วใช้งานได้เลย ไม่ต้องไปลงแอปพลิเคชันให้ยุ่งยากนะครับ แต่หากใครสายเทคโนโลยีจ๋าก็เลือกได้ตามสบายเลย ส่วนถ้าขนาดใหญ่ไปอันนี้คงไม่ต้องอธิบายเยอะนะครับ น้องเค้าจะใช้ชีวิตประจำวันลำบากและไม่มีความสุขครับ

รูปทรงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องพิจารณานะครับ เพราะปัจจุบันมีรูปทรงป้ายชื่อออกมามากมาย เอารูปทรงที่ไม่มีมุมแหลมมากครับ หรือมีมุมแหลมก็ต้องมีการลบคมมาก่อน ไม่งั้นจะทำให้น้องของเราเกิดบาดแผลได้

4.การใส่ป้ายชื่อน้อง

หลาย ๆ คนอาจไม่ได้สนใจเรื่องการใส่ป้ายชื่อน้องเข้ากับตัวปลอกคอ ผมอยากให้มองเรื่องนี้เยอะ ๆ หน่อยครับ เพราะมันมีผลกับการสูญหาย และการใช้งานของน้องครับ ห่วงที่ใช้ติดตั้งระหว่างป้ายชื่อจะต้องแข็งแรงและไม่หลุดง่าย คำว่าไม่หลุดง่ายนี่มันต้องไม่หลุดจริง ๆ นะครับ เพราะน้องเค้าซนและแข็งแรงกว่าที่เราคิดนะครับ ผู้ขายที่ใส่ใจจะต้องหนีบห่วงมาให้เราแบบในรูปเลยครับ ไม่งั้นรับประกันได้เลยว่ารอวันหายครับ ไม่นานป้ายน้องหลุดแน่ ๆ 

ความยาวของป้ายชื่อหลังติดตั้งก็สำคัญนะครับ ผู้ขายบางรายจะให้ห่วงมาหลายแบบ เพราะเป็นห่วงในเรื่องนี้ครับ เพราะบางทีหากไปติดตั้งแล้วปรากฏว่าป้ายชื่อห้อยยาวลงมา น้อง ๆ คงรำคาญ ผมลองเอาตัวอย่างรูปวิธีติดตั้งที่จะทำให้ป้ายชื่อหลุดยากและไม่ยาวจนทำให้น้องรำคาญมาให้ดู

5.สีสันและความสวยงามของป้ายชื่อน้อง

ส่วนนี้สำคัญมาก อย่าลืมว่าน้องเค้าไม่มีเครื่องประดับอะไรที่ติดตัวเค้าได้ตลอดเวลาจริง ๆ นอกจากปลอกคอและป้ายชื่อ ดังนั้นเราควรตั้งใจเลือกชนิดที่สวย ๆ ให้เค้านะครับ ปัจจุบันบอกได้เลยว่ามีความหลากหลายมากทั้งสีสันและลูกเล่น บางรายก็มีสีให้เลือกมากมาย แต่หากวัสดุเป็นแสตนเลส เวลาเราเห็นผู้ขายประกาศขายป้ายราคาถูก ส่วนใหญ่จะมีสีเดียวครับคือสีเงิน เพราะหากลองไปสืบราคากันแล้วราคาของป้ายสีแสตนเลสวิ่งกันตามลำดับสีจากถูกไปแพงตามนี้เลย

สีเงิน-สีดำ-สีทอง-สีโรสโกล ครับ ส่วนลูกเล่นก็มีกันมากมายครับเลือกเอาที่ชอบได้เลยครับ แต่อย่าเลือกเพลินจนลืมมองสิ่งที่ควรพิจารณาด้านการใช้งานนะครับ

ชนิดของป้ายชื่อน้อง

ปัจจุบันป้ายชื่อน้องถูกพัฒนาไปอย่างมาก แอดมินจึงตั้งชื่อบทความนี้ว่า “สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อป้ายน้องหมา/แมวในยุค 2022” เพื่อให้เราผู้เป็นเจ้าของน้องได้เลือกซื้อป้ายชื่อที่มีประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน อย่ามองแค่คำโฆษณาของผู้ขาย เพราะเชื่อได้เลยครับประเภทป้ายชื่อครอบจักรวาล ทำเอาผู้ใช้หลายคนถอดทิ้งกันมาเยอะแล้ว สังเกตได้จากรีวิวนะครับ ผู้ขายที่ไม่ได้พัฒนาเองแต่นำเข้าป้ายชื่อพวกนี้มา แบบประเภทซื้อมาขายไป ประเภทนี้น่ากังวลส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากจีนครับ ขอให้ผู้อ่านต้องตัดสินใจให้ดี ๆ นะครับ สังเกตง่าย ๆ ว่ารีวิวจากป้ายประเภทนี้มักจะไม่ค่อยมีออกมาจากผู้ใช้ แต่แทบทั้งหมดมาจากผู้ขายเองเป็นคนเขียนรีวิวครับ ถ้าจะมองหาป้ายที่มีเทคโนโลยีสูง ๆ แอดมินแนะนำให้ลองมองหาจากผู้ผลิตภายในประเทศ หรือไม่ก็เลือกแบรนด์ดัง ๆ ระดับโลกไปเลย ประเภทซื้อมาจากจีนแล้วมาขายต่อต้องพิจารณาดี ๆ นะครับ

ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อป้ายชื่อน้องเราควรมาทำความรู้จักประเภทของป้ายชื่อที่มีอยู่ในท้องตลาดกันก่อนจะเลือกซื้อนะครับ โดยผู้เขียนขอสรุปรวมมาเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆดังนี้

1.ป้ายชื่อแบบมีระบบติดตามตัว ป้ายชื่อแบบนี้ถือเป็นสุดยอดความใฝ่ฝันของผู้เลี้ยงทุกคน แต่เดี๋ยวก่อนเราลองมาทำความรู้จักป้ายชื่อประเภทนี้ให้ลึกซึ้งก่อนตัดสินใจกันดีกว่านะครับ ป้ายชื่อแบบนี้ในตลาดปัจจุบันที่ผมเห็นจะมีหลายรูปแบบ แต่ไม่ว่าจะรูปแบบไหนเราควรพิจารณาคุณสมบัติพื้นฐานของป้ายดังตารางต่อไปนี้ (ข้อมูลในตารางมาจากตอนที่แอดมินพยายามจะเก็บข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อมาใช้นะครับ หากผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ)

โดยสรุปแล้วผมว่าอุปกรณ์นี้ค่อนข้างทำให้เจ้าของอุ่นใจที่สุดครับ แต่สุดท้ายผู้เขียนก็ไม่ได้ซื้อแบบนี้มาใช้นะครับ เพราะเหตุผล 9 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นเลยครับ ผมว่ามันดูซับซ้อนเกินไปหน่อย แต่เอาจริงๆตอนแรกจะซื้อ AirTag ของ Apple มาใช้นะครับ ถึงแม้จะไม่ชอบใจขนาดแต่รู้สึกว่าเชื่อมั่นกว่าของแบรนด์อื่นซึ่งผมไม่รู้จักเลย ราคาก็พอน่ารัก รับได้ครับ แต่พอค้นหาข้อมูลก็พบว่า ไปเจอบทความนี้เข้าครับ (Kaiann Drance กล่าวว่า Apple ออกแบบ AirTag เพื่อติดตามสิ่งของ ไม่ใช่เด็ก ๆ โดยแนะนำให้ผู้ปกครองใช้ Apple Watch ที่มีการตั้งค่า Family Setting เพื่อติดตามบุตรหลานแทน ส่วนกรณีของการติดตามสัตว์เลี้ยง Drance ให้ความเห็นว่าสัตว์เลี้ยงของเราจำเป็นต้องอยู่ในระยะถึงจะติดตามตำแหน่งได้) อ้าวแบบนี้ก็จบเลยครับ เพราะผู้ผลิตออกมาระบุเองแบบนี้ แม้ราคาจะน่ารักก็อาจจะต้องขอผ่าน

แต่แอดมินยังไม่ละความพยายามนะครับ ก็ลองพิจารณาจากรีวิวต่างๆที่พอจะหาได้ เพราะคิดว่าน่าจะมีคนเขียนถึงอุปกรณ์ประเภทนี้เยอะ เพราะน่าจะมีคนอยากรู้แบบเราเยอะเหมือนกัน แต่แอดมินไม่ค่อยประทับใจเนื่องจากรีวิวเกิน 90% มาจากตัวแทนขายหรือผู้ผลิต เลยต้องขอผ่านไปก่อนนะครับ

เอาเป็นว่าใครไม่สนใจเรื่องน้ำหนัก ความสวยงาม การต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่ และราคา ลองหามาใช้ได้นะครับ 

2. ป้ายชื่อแบบสลัก QR Code ที่เชื่อมต่อโปรแกรม ป้ายแบบนี้ผู้เขียนขอเรียกว่าป้ายแบบ Smart QR Code ละกันนะครับ เพราะปัจจุบันหลาย ๆ บริษัทก็พัฒนากันจนต้องร้องว้าวเลยครับ ป้ายแบบนี้ราคาไม่แพงครับอยู่ในช่วง 300-1,000 บาท และมีขายกันมากในต่างประเทศครับ แต่อย่าลืมนะครับแบบนี้ค้นหาตำแหน่งน้องไม่ได้นะครับ แล้วแบบนี้มันน่าสนใจตรงไหนลองมาอ่านดูนะครับ

ป้ายลักษณะนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แนวหลัก ๆ คือแบบต้องใช้แอปพลิเคชัน กับแบบไม่ต้องใช้แอปพลิเคชันครับ แต่ทั้งสองแบบก็ต้องการสัญญาณอินเตอร์เน็ตในการใช้งานนะครับ ป้ายลักษณะนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาจากแนวคิดการฝังไมโครชิพสัตว์เลี้ยง เพราะจุดอ่อนของการฝังไมโครชิพก็อย่างที่บอกครับมันต้องมีเครื่องอ่านไมโครชิพ ซึ่งคนปกติไม่น่าจะมีใครมีครับ แต่ป้ายแบบ Smart QR Code เพียงคุณมีโทรศัพท์ก็สามารถใช้งานได้ทันที งั้นเราลองมาดูข้อดีข้อเสียของป้ายแบบนี้กันนะครับ

3. ป้ายชื่อปกติ ป้ายชื่อหมาแมว ทั่วไปเลยครับ อยากจะบอกว่าอย่างน้อยนะครับเจ้าของน้อง ๆ ทุกคนก็ควรมีป้ายชื่อแบบนี้นะครับ ป้ายราคาถูกมีตั้งแต่หลัก สิบ จนถึงร้อยบาท ขึ้นกับวัสดุอุปกรณ์ และความสวยงาม เพราะเรามองสิ่งนี้เป็นเครื่องประดับให้น้องได้นะครับ ที่สำคัญอย่าสับสนกับการสลัก QR Code ของป้ายประเภทนี้กับป้ายประเภท Smart QR Code นะครับ การสลัก QR Code ของป้ายแบบนี้จะเป็นการสลัก QR Code ที่ไม่ได้โปรแกรมไว้ครับ เป็นเพียงลิ้งที่เชื่อมต่อไปยังที่ใดที่หนึ่งที่เจ้าของสร้างไว้ ย้ำว่าไปได้ที่เดียวนะครับ พอจะทราบถึงคุณสมบัติของป้ายแบบนี้กันแล้วนะครับ งั้นเรามาดูข้อพิจารณาที่ต้องสนใจก่อนตัดสินใจซื้อป้ายชื่อน้องกัน

ราคาและค่าใช้จ่ายของป้ายชื่อน้อง

ราคาก็เป็นส่วนสำคัญมาก ๆ นะครับในการตัดสินใจ ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้แล้วด้วย แต่ก่อนจะคิดแบบนั้นเราอาจต้องมองดูนะครับว่าเราให้ความสำคัญกับป้ายชื่อน้องขนาดไหน ก็ชั่งน้ำหนักกับความใส่ใจและการกลัวน้องสูญหายได้เลยครับ หากเพื่อน ๆ ชั่งน้ำหนักกันได้แล้วผมขอสรุปค่าใช้จ่ายตามประเภทของป้ายชื่อแต่ละประเภทไว้ให้คร่าว ๆ ตามตารางนะครับ เพื่อน ๆ เลือกกันได้ตามกำลังทรัพย์ในกระเป๋ากันเลย

       หวังว่าเพื่อน ๆ อ่านจบ คงมีป้ายชื่อในใจซักคนละอันสองอันนะครับ เพราะการใส่ป้ายชื่อให้น้องนั้นมันแสดงถึงความรัก ความเอาใจใส่ และความรับผิดชอบทั้งต่อน้อง และต่อสังคมนะครับ มาช่วยลดปัญหาน้องหายกันด้วยการใส่ ป้ายชื่อหมาแมว ให้น้อง ๆ ที่เรารักกันครับ