วัคซีนหมาแมว สำคัญ !

วัคซีนหมาแมว สำคัญ !

ในปัจจุบันการฉีดวัคซีนหมาแมวนั้น ถือว่าสำคัญมากที่สุด จัดเป็นสิ่งที่ควรทำอันดับต้น ๆ หลังจากที่ได้รับตัวน้องหมา หรือน้องแมวเข้าบ้าน เพื่อป้องกันโรคที่มีหลากหลายชนิด ที่อาจเป็นแล้วรักษาได้ยาก เพื่อรักษาสุขภาพ และเพิ่มความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง และตัวเรา สำหรับพี่หมาพี่แมวที่โตแล้ว อายุมากกว่า 1 ปี กับน้องหมาน้องแมววัยเด็ก การฉีดวัคซีนจะแตกต่างกันนะคะ จะเริ่มฉีดไม่เหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับสัตวแพทย์พิจารณาค่ะ

วัคซีนหมาแมว คืออะไร ? วัคซีนคือผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ ที่ผ่านกระบวนการ ทำให้เชื้ออ่อนแอลง หรือเชื้อนั้นได้ตายลง จะทำให้ไม่เป็นอันตราย และก่อโรคได้ เพื่อช่วยเสริมสร้าง และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้สัตว์เลี้ยงของเราต้านโรคได้ดีขึ้น ควรฉีดให้ครบทุกโดส และตรงตามวันที่กำหนด เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

วัคซีนป้องกันโรคที่จำเป็นของ น้องหมา มีทั้งหมด 5 ตัว คือ

  1. วัคซีนป้องกัน ไวรัสไข้หัดสุนัข (Canine Distempe rvirus)
  2. วัคซีนป้องกัน เชื้ออะดิโนไวรัสในสุนัข (Canine Adenovirus) หรือโรคตับอักเสบ
  3. วัคซีนป้องกัน เชื้อพาร์โวไวรัส (Canine Parvovirus) หรือโรคลำไส้อักเสบ
  4. วัคซีนแ้องกัน โรคหลอดลมอักเสบติดต่อ (Canine Infectious Tracheobronchitis) 
  5. วัคซีนป้องกัน โรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis)

หากไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรค อาจจะทำให้น้องหมาติดโรค และเกิดอันตรายต่อตัวน้องหมาได้ เพราะแต่ละโรคนั้นมีอาการ และผลข้างเคียง ที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะในแต่ละโรค แพร่เชื้อไว สามารถติดได้ง่าย บางโรคหากเป็นแล้วก็รักษายาก หายยาก อาจก่อให้เกิดความทรมานแก่น้อง ๆ และน้องหมาบางตัว อาจไม่มีภูมิคุ้มกันมากพอ ที่จะต่อสู้กับโรคเหล่านี้ จึงทำให้น้องเสียชีวิตได้ ทางที่ดีควรศึกษาข้อมูลวัคซีน และพาน้องเข้ารับวัคซีนนะคะ วัคซีนสำหรับน้องหมา จะมีวัคซีนรวมด้วย สามารถฉีดทีเดียวได้เลย ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายได้ค่ะ

วัคซีนที่แนะนำสำหรับ น้องหมา คือ

  1. วัคซีนป้องกัน พิษสุนัขบ้า (Rabies virus)
  2. วัคซีนป้องกัน โรคหวัดในสุนัข

วัคซีนป้องกันโรคที่จำเป็นของ น้องแมว มีทั้งหมด 3 ตัว คือ

  1. วัคซีนป้องกัน ไข้หัดแมว (Feline parvo virus)
  2. วัคซีนป้องกัน แคลิซิไวรัส (Feline callicivirus) และเฮอร์ปีส์ไวรัส-1 (Feline herpesvirus) หรือโรคหวัดแมว
  3. วัคซีนป้องกัน มะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว (Feline leukemia virus) 
  4. วัคซีนป้องกัน พิษสุนัขบ้า (Rabies virus)

หากน้องแมวไม่ได้รับวัคซีนป้องกันตามโรคดังกล่าว อาจทำให้น้องติดเชื้อได้ง่าย เพราะแต่ละโรคค่อนข้างแพร่กระจายไว บางโรคอาจเป็นแล้วหายยาก น้อง ๆ อาจทนต่อการรักษาตัวไม่ไหว จะทำให้น้องเสียชีวิตได้ ทางที่ดีควรพาน้อง ๆ ไปรับวัคซีนกันนะคะ

วัคซีนที่แนะนำสำหรับ น้องแมว คือ

  1. วัคซีนป้องกัน ลิวคีเมีย (Feline leukemia virus)
  2. วัคซีนป้องกัน การติดเชื้อคลาไมเดีย (Chlamydophila felis)

การรับวัคซีนเข็มแรก ของน้องหมา และน้องแมว จะรับตอนอายุที่ไม่ต่างกันมาก ของน้องหมา สามารถรับได้ตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนน้องแมว สามารถรับได้ตั้งแต่ 8 สัปดาห์เป็นต้นไป อย่างที่กล่าวในข้างต้นว่า ลูกหมาลูกแมวเด็ก ๆ กับพี่หมาพี่แมวที่โตแล้ว การเริ่มฉีดวัคซีนแตกต่างกันนะคะ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อแจ้งข้อมูลก่อน ในแต่ละช่วงวัยของลูกหมาลูกแมว จะต้องเข้ารับโปรแกรมวัคซีน ดังนี้

โปรแกรมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้นะคะ อิงตามดุลยพินิจของสัตวแพทย์ที่ไปพบได้เลย

หลังจากที่รับวัคซีนครบทุกโดสแล้ว ควรพาน้อง ๆ ไปฉีดวัคซีนที่แนะนำด้วย สิ่งที่แนะนำให้ฉีดทุกปี ปีละ 1 เข็ม คือ วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า เพื่อกระตุ้นให้วัคซีนมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ตามที่สัตวแพทย์จะนัดหมาย ถ้าหากต้องการฉีดวัคซีนนอกเหนือจากจากโปรแกรม ควรแจ้งข้อมูลให้สัตวแพทย์ได้ทราบก่อน หากน้องหมาหรือน้องแมวถูกกัดมาอาจเสี่ยงติดเชื้อได้

ก่อนที่จะพาน้องหมา และน้องแมวไปรับวัคซีน โดยการเตรียมตัวเบื้องต้น มีดังนี้

  1. สอบถามสัตวแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
  2. สังเกตอาการของ น้องหมาน้องแมวว่า ไม่มีอาการอะไรผิดปกติ
  3. ดูแลสุขภาพให้ดี ไม่ป่วย
  4. ควบคุมอาหาร ให้กินแต่ของที่มีประโยชน์
  5. อาบน้ำให้สะอาดก่อนไปฉีดวัคซีน
  6. จัดหากรงและเชือกจูงที่เหมาะสม

หลังจากที่พาน้องหมาน้องแมวไปรับวัคซีนแล้ว อาจจะมีอาการข้างเคียง เช่น อ่อนเพลีย นอนซึม บริเวณที่ฉีดวัคซีนบวมแดง รวมไปถึงการอาเจียน ท้องเสีย ในระยะ 2 – 3 วันแรก แต่อาการเหล่านี้ จะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของน้อง บางตัวอาจจะหายไว บางตัวอาจจะหายช้า นอกจากนี้อาจเกิดมะเร็งชนิดนี้มีชื่อว่า FISS (feline injection-site sarcomas) ขึ้นด้วย แต่น้อยมากที่จะเกิดขึ้นกับน้อง ๆ หากผิดสังเกตให้ปรึกษาแพทย์ทันที

สิ่งที่ควรทำหลังจากรับวัคซีนแล้ว มีดังนี้

  1. ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด หากพบอาการที่ผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ทันที
  2. งดการอาบน้ำในระยะ 7 วัน หลังจากได้รับวัคซีน
  3. งดออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวหนัก ๆ 7 วัน หลังจากได้รับวัคซีน
  4. หากไม่จำเป็น ไม่ควรพาน้องหมา และน้องแมวออกนอกพื้นที่ เพื่อลดความเสี่ยงการพบปะเชื้อโรคให้น้อง ๆ

หากไม่สะดวกพาตัวน้องไปรับวัคซีนที่คลินิก ทำอย่างไรดี ?

ในปัจจุบันทางเจ้าของหรือผู้ดูแลไม่สามารถนำตัวน้องไปที่คลินิกได้นั้นก็พบเยอะมาก แต่การทำให้น้องหมา และน้องแมวได้รับวัคซีนนั้นยังพอมีวิธีอยู่ อาจจะไม่หลากหลายแต่ก็พอจะเป็นทางเลือกให้ได้ คือ

  1. หาคลินิกที่สัตว์แพทย์ สามารถเดินทางมาฉีดวัคซีนให้น้องได้ถึงบ้าน
  2. สามารถติดต่อ สอบถาม คลินิกเพื่อรับวัคซีนกลับมาฉีดให้น้อง ๆ เองที่บ้าน ตามมาตรการ และขั้นตอนของคลินิก ซึ่งอาจจะมีในบางที่เท่านั้น

หากเลือกขั้นตอนนี้ ควรขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์มาอย่างชัดเจน และศึกษาวิธีการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัย และไม่ลดประสิทธิภาพของวัคซีน สิ่งที่ควรเตรียมไปเพื่อรับตัววัคซีนคือ กระติกน้ำแข็ง เพราะตัววัคซีนต้องการอุณหภูมิที่คงที่ เพราะถ้าอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง วัคซีนทีรับไปก็ไม่ต่างจากน้ำเปล่า

วันนี้ทางแอดมินจะมาแนะนำสำหรับคนที่สนใจทำป้ายชื่อให้น้องกันนะครับ สำหรับตัว Smart Tag One ป้ายชื่อน้องหมาแมวอัจฉริยะ ที่แอดมินจะแนะนำ คือมันดีมาก ด้านหลังจะมีตัวคิวอาร์โค้ดให้สแกน ตัวคิวอาร์โค้ดตัวนี้สามารถจะบอก พิกัดบ้านน้อง บอกโปรไฟล์น้อง ว่าเจ้าจองคือใคร จะติดต่อได้ช่องทางไหนบ้าง มีตารางวัคซีนให้ดู มีการแจ้งเตือนวันฉีดวัคซีน มีนามบัตรประจำตัวน้องให้เลือกมากกว่า 50 แบบ แถมตัวป้ายชื่อ มีแบบให้สลักลงไปมากกว่า 100 แบบ มันเลิศมาก แอดมินจะปักมุดพิกัดช่องทางการ สั่งซื้อ HobbyQR Smart Tag ไว้ให้ รักน้องไปซื้อให้น้องกันเร็วววว

ช่องทางการสั่งซื้อ Smart Tag One

– Facebook : https://www.facebook.com/hobbyqr

– Line@ : @hobbyqr >> คลิกเลย : https://lin.ee/Fq6Jwrs

– Instagram : https://www.instagram.com/hobbyqr_official/

– Website : https://salepage.hobbyqr.com/