ว่าด้วยเรื่อง จมูกของสุนัข
สังเกตกันไหมว่า จมูกของสุนัข ทำไมจะต้องฟุตฟิต ๆ เหมือนได้กลิ่นอะไรอยู่ตลอดเวลา หรือบางทีก็ชอบมาดมกลิ่นรอบ ๆ ตัวเรา ? จนบางทีเราเกิดความหงุดหงิดว่า เจ้าสุนัขจะมาเช็คอะไรขนาดนั้น ดมแล้วดมอีก ดมไม่หยุด นั่นก็เป็นเพราะว่าสุนัขของเรารับรู้สิ่งต่าง ๆ ได้จากการดมกลิ่นค่ะ พวกเขาอาจจะรับรู้ถึงอะไรบางอย่างจากตัวเราก็ได้นะคะ อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่จมูกไวมาก สามารถได้กลิ่นหรือรับรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ทันทีแม้ว่าเรายังไม่ได้เห็น หรือสัมผัสสิ่งนั้นกันเลยก็ตาม ถือว่าเป็นเรื่องที่เจ๋งสุด ๆ ไปเลย
การดมกลิ่นนั้นเป็นสัญชาตญาณของหมาโดยแท้ แต่จะต้องเรียนรู้และมีประสบการณ์ร่วมด้วย เพราะสุนัขต้องใช้จมูกในการดมหากลิ่นหรือสิ่งต่าง ๆ เพื่อที่จะได้รับรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร จมูกของสุนัขจึงเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก ๆ หากจมูกเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถดมกลิ่นได้ นั่นอาจหมายความว่าสุนัขของเราจะเหมือนคนตาบอดได้เลยทันที เพราะไม่สามารถรับรู้กลิ่นต่าง ๆ ได้ หรืออาจจะได้กลิ่นผิดเพี้ยนไป จมูกของสุนัข ก็เหมือนกับดวงตาของสุนัขนั่นเอง หากจะถามว่าสุนัขมองเห็นและรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งนั้นคืออะไร ในขณะที่ดวงตาของสุนัขนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเหมือนคน คำตอบนั่นก็คือ สุนัขมองเห็นได้ด้วยการดมกลิ่น อาจจะเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ แต่ถือว่านี่คือความสามารถพิเศษของสุนัขเลยก็ว่าได้
จมูกสุนัขนั้นมีเซลล์ประสาทในการรับกลิ่นมากถึง 300 ล้านตัว ถือว่าเยอะมากถ้าเทียบกับมนุษย์ เพราะมนุษย์นั้นมีเซลล์ประสาทรับกลิ่นแค่ 5 ล้านตัวเท่านั้น (แต่ละสายพันธุ์มีจำนวนเซลล์แตกต่างกันออกไป อยู่ที่ลักษณะรูปร่างของจมูกด้วย) สุนัขใช้การดมกลิ่นเพื่อทำความเข้าใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว และมักจะใช้กลิ่นนั่น เป็นที่จดจำสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
การรับกลิ่นของคน รับกลิ่นจากความรู้สึกของคนว่า กำลังรู้สึกเช่นไร เป็นอะไร สุนัขสามารถรับรู้ได้ โดยไม่ต้องถามหรือพูดกันเเลยทีเดียว ในขณะที่เรากำลังรู้สึกแย่ เสียใจ หรือมีความสุข ความรู้สึกเหล่านั้นจะถูกปล่อยกลิ่นออกมาในแบบที่เราก็ไม่รู้ตัวหรือได้รับกลิ่นนั้น แต่สุนัขสามารถรับรู้ได้ทันที และจะมีพฤติกรรมตอบสนองต่าง ๆ ออกมาให้เราได้เห็นกัน อาทิเช่น เข้ามาอ้อน คลอเคลีย หรืออยู่ใกล้ ๆ หากรู้ว่าเรากำลังเสียใจ นั่นเป็นอีกการกระทำหนึ่งที่เหล่าทาสใจชื้นกันเลยทีเดียว
การรับกลิ่นเรื่องอาหาร สังเกตไหมว่าเรากำลังรับประทานอาหารทีไร เจ้าสุนัขก็จะเดินมาจ้องทันที นั่นเพราะพวกมันได้กลิ่นอาหารของคุณ แม้จะพึ่งหยิบออกมาจากถุงก็ตาม
การรับกลิ่นของสัตว์อื่น ๆ สามารถแยกเพศ และบอกได้ว่าสุนัขเพศเมียตัวใด กำลังติดสัดอยู่ในขณะนั้นด้วย สุนัขใช้วิธีการทักทายกันด้วยการดมกลิ่น การที่เดินไปดมก้นอีกฝ่ายนั่นแปลว่ากำลังทักทาย หรือทำความรู้จักกับกลิ่นเฉพาะตัวของสุนัข เราจะเห็นได้ว่าการที่สุนัขวิ่งไปที่ไหนแล้วดมนั่นนี่ ยิ่งหากมีการปัสสาวะทับ นั่นแปลว่าสุนัขกำลังสร้างอาณาเขตทับสุนัขที่เคยปัสสาวะรดที่ตรงนั้นก่อน เป็นนิสัยที่สุนัขทุกตัวกระทำ นอกจากนี้อาจมีการข่วน หรือตะกุยสิ่งต่าง ๆ เพื่อเป็นการฝากกลิ่นที่ผ่านออกมาทางอุ้งมือ ให้สุนัขตัวอื่นทราบด้วยว่าที่ตรงนี้ เขาเป็นเจ้าของอาณาเขต
มากไปกว่านั้นคือสามารถดมกลิ่นเพื่อเตือนภัย และส่งสัญญาณที่อาจเกิดอันตรายมาให้มนุษย์ได้ด้วย
จมูกสุนัขถือว่าเป็นจุดที่อ่อนไหว หากได้รับอะไรกระทบแรง ๆ จะทำให้สุนัขสุดแสนจะเจ็บปวด เพราะมีเส้นเลือดฝอยและเส้นประสาทจำนวนมาก ถ้าจมูกถูกตีด้วยไม้หรืออุปกรณ์ใดก็ตามที่มีความแข็ง เลือดจะไหลออกไม่หยุด จะเป็นอันตรายต่อตัวสุนัขได้ ผู้ดูแลควรระมัดระวัง และหมั่นเช็คจมูกของสุนัขเสมอ หากพบว่ามีเลือดไหลออกที่จมูก ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด ก็ควรให้พบแพทย์ทันที หากปล่อยไว้อาจจะเกิดการติดเชื้อได้
เรามาทำความรู้จักกับ 7 สายพันธุ์สุนัขที่มีจมูกดีที่สุด สามารถรับกลิ่นได้ดีมาก ช่วยมนุษย์ในเรื่องของการดมกลิ่นหาสารเสพติด ระเบิด ล่าสัตว์ รวมไปถึงดมกลิ่น เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต หรือผู้เสียชีวิตที่มนุษย์ไม่สามารถหาร่างเจอได้ นอกจากนี้ยังมีความสามารถพิเศษอื่น ๆ ด้วย โดยเรียงตาลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้
- บลัดฮาวด์ (Bloodhound)
เป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีจมูกดีที่สุด ตำรวจไม่ว่าจากประเทศไหน ก็นิยมนำสุนัขพันธุ์นี้มาฝึกจับกลิ่นของสารเสพติด ระเบิด แก๊สรั่ว ผู้ร้าย ศพ หรือผู้รอดชีวิต จะเห็นได้บ่อย ๆ ว่าพันธุ์นี้เป็นหมาตำรวจนั่นเอง ด้วยการที่มีจมูกที่ดมกลิ่นได้เยี่ยมที่สุดนั้น สุนัขพันธุ์นี้จึงมีความผิดปกติทางพันธุกรรม จึงทำให้มีอายุสั้น และมักจะตายด้วยโรคมะเร็งเป็นเสียส่วนใหญ่ ในขณะที่อายุยังน้อย
- บาสเซ็ต ฮาวด์ (Basset Hound)
เป็นสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดในตระกูลฮาวด์ นิยeมในการล่าสัตว์ ล่ากระต่าย ตามรอยกลิ่นต่าง ๆ เพื่อหาร่องรอยสัตว์ที่กำลังล่า สามารถดักกลิ่นได้จากพื้นดินเป็นส่วนใหญ่ เพราะลักษณะลำตัวที่ขาสั้น จึงจะได้กลิ่นจากพื้นดินมากเป็นพิเศษ และเหนียงนั้นก็สามารถใช้ดักจับกลิ่นได้อีกเช่นกัน เรียกได้ว่าทั้งร่างกายของสุนัขพันธุ์นี้นั้น สามารถแปลงเป็นตัวช่วยซัพพอร์ตความสามารถในการดมกลิ่นได้ดีทีเดียว เรื่องจมูกของสุนัขที่ดีที่สุดนั้นเป็นรองจากบลัดฮาวด์เท่านั้น
- บีเกิล (ฺBeagle)
เป็นสายพันธุ์ที่นิยมนำมาฝึกในสนามบินในหลายประเทศเป็นอย่างมาก ในประเทศไทยนำสุนัขพันธุ์บีเกิลมาช่วยตรวจสัมภาระที่สนามบินตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ด้วยลักษณะรูปร่างที่เล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพาเดินตรวจ หรือหาอาหารในสนามบิน
- เยอรมัน เชพเพิร์ด (German Shepherd)
เป็นสุนัขอีกสายพันธุ์ที่มีจมูกดีมาก เมื่อต้นปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ทางเยอรมันได้นำสุนัขพันธุ์นี้ฝึกตรวจหาผู้ป่วยติดเชื่อโคโรน่าไวรัส ซึ่งมีความแม่นยำถึง 94% สามารถแยกได้ว่าใครติดหรือไม่ติด และยังแยกได้แม้กระทั่งผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการอีกด้วย สุนัขพันธุ์นี้ช่วยในสงครามได้ สามารถตามกลิ่นของคนร้ายที่ลอยมาตามลมได้ เจ๋งมาก ๆ
- ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever)
ทางฝั่งสายพันธุ์ลาบราดอร์ก็ไม่น้อยหน้า เมื่อคนไทยที่กำลังศุกษาอยู่ที่ คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ นำสุนัขพันธุ์นี้มาฝึกตรวจหาผู้ป่วยติดเชื่อโคโรน่าไวรัส ซึ่งมีความแม่นยำถึง 95% ถือว่าประสบความสำเร็จเลยทีเดียว
- เบลเยี่ยม มาลินอยส์ (Belgium Malinois)
สุนัขพันธุ์นี้คล้ายกับเยอรมัน เชพเพิร์ด เบลเยี่ยม มาลินอยส์จะถูกวงการตำรวจนำไปช่วยงานมากที่สุด เพราะมีความสามารถหลากหลายพอที่จะช่วยตำรวจได้ อีกทั้งรูปร่างลักษณะ บุคลิก และหน้าตา ก็เหมาะกับงานในด้านนี้เป็นอย่างมาก
- อิงลิช สปริงเกอร์ สแปเนียล (English Springer Spaniel)
ถูกผสมพันธุ์มาเพื่อใช้เป็นสุนัขนักล่า ถนัดล่าจากพุ่มไม้หรือในที่กำบังสูง สุนัขพันธุ์นี้ชอบพุ่งกระโจนเข้าหาสัตว์ที่แอบอยู่ในพุ่มไม้ เพื่อให้ตกใจและออกมาจากพุ่ม เมื่อพวกสัตว์ออกมาก็จะถูกนายพราน หรือเจ้าของสุนัขพันธุ์นี้ยิง จึงเป็นที่นิยมมาที่จะใช้ในการล่าสัตว์ และยังมีความสามารถในการตรวจจับระเบิด ตรวจเงินปลอม และตามหาคนหายได้อีกด้วย
จะเห็นได้ว่าสุนัขแต่ละสายพันธุ์มีความสามารถที่เหมือนและแตกต่างกันออกไป แต่รับรองได้เลยว่าทุกสายพันธุ์มีจมูกไว้ดมกลิ่นต่าง ๆ ได้ดีแน่นอน ถือว่าเป็นสัตว์ที่เก่ง แข็งแรง และฉลาดมาก ๆ
การดูแล จมูกของสุนัข นั้นไม่ยาก เพียงแค่ไม่ทำให้จมูกแห้ง โดยสามารถดูแลได้ทั้งการใช้ชีวิต และการกินของสุนัขได้เลย ข้อสังเกตว่า จมูกของสุนัข สุขภาพดีคือจะเป็นสีดำและเปียกอยู่ตลอดวลา หากจมูกแห้งนั่นอาจจะแปลว่าสุนัขกำลังป่วยค่ะ
วิธีการดูแลจมูกสุนัขง่าย ๆ มีเพียงแค่ 4 ขั้นตอน ดังนี้
- เตรียมน้ำสะอาดไว้ให้สุนัข
เพื่อให้สุนัขมีน้ำสะอาดไว้กิน และล้างจมูก ลดการเกิดแบคทีเลียด้วย ควรเปลี่ยนน้ำทุกวัน และล้างถาดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- เตรียมโลชั่นสำหรับทาที่ จมูกของสุนัข
หากเข้าหน้าหนาว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรเตรียมไว้ช่วยเหลือสุนัข เพราะในช่วงที่อากาศหนาวจมูกของสุนัขจะแห้งง่าย โลชั่นนั้นหาซื้อได้จากร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง หรือปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่า จะไม่เป็นอันตรายต่อสุนัข
- ให้อาหารที่มีคุณภาพ เลี่ยงอาหารที่สุนัขแพ้
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อไก่ และแป้งที่มีส่วนผสมของกลูเตน เพราะอาจจะทำให้สุนัขเกิดอาการแพ้ได้ ควรเลือกอาหารที่มีโปรตีนและกลูเตนฟรี เพื่อสุขภาพของสุนัข ไม่ใช่เพียงแต่บำรุงจมูก แต่จะบำรุงไปทั้งร่างกาย
- ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
การตรวจสุขภาพให้สุนัขทุกปีเป็นสิ่งที่ดีมาก จะได้เช็คโรคต่าง ๆ ได้ด้วย หากพบว่าเป็นอะไรจะได้รักษาได้ทันท่วงที ยิ่งหากอายุมากขึ้น ยิ่งต้องดูแลและเอาใจใส่พวกเขามากกว่าเดิม
สรุปแล้ว จมูกของสุนัข นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ช่วยกันดูแลรักษา ไม่ทำร้ายน้องนะคะ
วันนี้ทางแอดมินจะมาแนะนำสำหรับคนที่สนใจทำป้ายชื่อให้น้องกันนะครับ สำหรับตัว Smart Tag One ป้ายชื่อน้องหมาแมวอัจฉริยะ ที่แอดมินจะแนะนำ คือมันดีมาก ตัวป้ายชื่อจะบอกชื่อน้องหมา แมว แถมมีเบอร์โทรด้วย แต่ยัง ยังไม่หมด ที่สำคัญมันล้ำมาก(ก.ไก่ล้านตัว) ด้านหลังจะมีตัวคิวอาร์โค้ดให้สแกน ตัวคิวอาร์โค้ดตัวนี้สามารถจะบอก พิกัดบ้านน้อง บอกโปรไฟล์น้อง ว่าเจ้าจองคือใคร จะติดต่อได้ช่องทางไหนบ้าง มันดีมากจริง ๆ แอดมินก็ใช้อยู่ มีนามบัตรประจำตัวน้องให้เลือกมากกว่า 50 แบบ แถมตัวป้ายชื่อ มีแบบให้สลักลงไปมากกว่า 100 แบบ มันเลิศมาก แอดมินจะปักมุดพิกัดช่องทางการ สั่งซื้อ HobbyQR Smart Tag ไว้ให้ รักน้องไปซื้อให้น้องกันเร็วววว
ช่องทางการสั่งซื้อ Smart Tag One
– Facebook : https://www.facebook.com/hobbyqr
– Line@ : @hobbyqr >> คลิกเลย : https://lin.ee/Fq6Jwrs
– Instagram : https://www.instagram.com/hobbyqr_official/
– Website : https://salepage.hobbyqr.com/